เมนู

5. ปัพพโตปมสูตร



[411] สาวัตถีนิทาน.
ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลได้เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ในตอนกลางวัน ครั้นแล้วได้ทรงอภิวาท แล้วประทับอยู่ ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง.
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสกะท้าวเธอว่า เชิญเถิดมหาบพิตร
พระองค์เสด็จไปไหนมา แต่วัน.
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชากษัตริย์ผู้ได้มูรธาภิเษกแล้ว
ผู้เมาแล้วเพราะความเมาในความเป็นใหญ่ ถูกความกำหนัดในกามรุมแล้ว
ถึงแล้วซึ่งความมั่นคงในชนบท ชนะปฐพีมณฑลอันใหญ่แล้วครอบครองอยู่
ย่อมมีราชกรณียะอันใด บัดนี้ ข้าพระองค์ก็ขวนขวายในราชกรณียะเหล่านั้น.
[412] พ. ดูก่อนมหาบพิตร พระองค์จะทรงสำคัญความข้อนั้น
เป็นไฉน ณ ที่นี้ข้าราชการของพระองค์ ผู้ควรเชื่อถือ มีวาจาเป็นหลักฐาน
พึงมาแต่ทิศตะวันออก เข้ามาเฝ้าพระองค์ แล้วกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่
พระมหาราชเจ้า ขอพระองค์พึงทรงทราบฝ่าละอองพระบาท ข้าพระเจ้ามาจาก
ทิศตะวันออก ณ ที่นั้น ได้เห็นภูเขาใหญ่สูงเทียมเมฆ กำลังกลิ้งบดปวงสัตว์มา
พระเจ้าข้า สิ่งใดที่พระองค์จะพึงทรงกระทำ ขอได้โปรดกระทำเสีย ลำดับนั้น
ข้าราชการคนที่ 2 ผู้ควรเชื่อถือ มีวาจาเป็นหลักฐาน พึงมาแต่ทิศใต้ ฯลฯ
ต่อจากนั้น ข้าราชการคนที่ 3 ผู้ควรเชื่อถือ มีวาจาเป็นหลักฐาน พึงมาจากทิศ
ตะวันตก ฯลฯ ต่อจากนั้น ข้าราชการคนที่ 4 ผู้ควรเชื่อถือ มีวาจาเป็น
หลักฐาน มาจากทิศเหนือ เข้ามาเฝ้าพระองค์แล้ว พึงกราบทูลอย่างนี้ว่า

ข้าแต่พระมหาราชเจ้า ขอพระองค์ทรงทราบฝ่าละอองพระบาท ข้าพเจ้า
มาจากทิศเหนือ ณ ที่นั้น ได้เห็นภูเขาใหญ่สูงเทียนเมฆ กำลังกลิ้งบดปวงสัตว์
มา พระเจ้าข้า สิ่งใดที่พระองค์จะพึงทรงกระทำ ขอได้โปรดกระทำเสียเถิด.
ดูก่อนมหาบพิตร ครั้นเมื่อมหาภัยอันร้ายกาจ ที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้
บังเกิดขึ้นแล้วแก่พระองค์ อะไรเล่า ที่พระองค์จะพึงทรงการทำในความเป็น
มนุษย์ที่ได้ยาก สมัยจะสิ้นมนุษย์.
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้นเมื่อมหาภัยอันร้ายกาจ ที่ใหญ่โต
ถึงเพียงนั้น บังเกิดขึ้นแก่หม่อมฉัน อะไรจะพึงเป็นกิจที่หม่อมฉันพึงกระทำ
ในความเป็นมนุษย์ที่ได้ยากสมัยสิ้นมนุษย์เล่า นอกจากประพฤติธรรม นอกจาก
พระพฤติสม่ำเสมอ นอกจากทำกุศล นอกจากทำบุญ.
[913] พ. ดูก่อนมหาบพิตร อาตมภาพขอบอกกล่าว ขอเตือน
ให้ทรงทราบ ดูก่อนมหาบพิตร ชราและมรณะย่อมครอบงำพระองค์ ดูก่อน
มหาบพิตรก็และเมื่อชรามรณะครอบงำพระองค์อยู่ อะไรเล่า จะพึงเป็นกิจที่
มหาบพิตรพึงกระทำ.
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็และเมื่อชรามรณะครอบงำข้าพระองค์อยู่
อะไรเล่าจะพึงเป็นกิจที่หม่อมฉันควรจะทำ นอกจากประพฤติธรรม นอกจาก
ประพฤติสม่ำเสมอ นอกจากทำกุศล นอกจากทำบุญ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระราชากษัตริย์ ผู้ได้มูรธาภิเษกแล้ว ผู้เมาแล้วเพราะความเมาในความเป็น
ใหญ่ ถูกความกำหนัดในกามรุมแล้ว ผู้ถึงความมั่นคงในชนบท ผู้ชำนะ
ปฐพีมณฑลอันใหญ่ แล้วครอบครองอยู่ ทรงทำการรบด้วยทัพช้างเหล่าใด
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อชรามรณะครอบงำอยู่ ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะทำการรบ
ด้วยทัพช้างแม้เหล่านั้น1 ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชากษัตริย์ ผู้ได้มูรธา-
1. สุดวิสัยที่จะรบด้วยช้าง

ภิเษกแล้ว ผู้เมาแล้วเพราะความเมาในความเป็นใหญ่ ผู้ถูกความกำหนัดใน
กามรุมแล้ว ผู้ถึงความมั่นคงในชนบท ผู้ชำนะปฐพีมณฑลอันใหญ่แล้วครอบ
ครองอยู่ ทรงทำการรบด้วยทัพม้าแม้เหล่าใด ฯลฯ รบด้วยทัพรถแม้เหล่าใดฯลฯ
รบด้วยทัพทหารเดินเท้าแม้เหล่าใด ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อมรณะครอบงำอยู่
ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะทำการรบด้วยทัพทหารเดินเท้าแม้เหล่านั้น ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญในราชสกุลนี้ มหาอำมาตย์มีผู้มนต์ ซึ่งสามารถจะใช้มนต์ทำลายข้าศึกที่
ยกมา ก็มีอยู่เหมือนกัน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แต่เมื่อชรามรณะครอบงำสิ
ก็ไม่ใช่คติวิสัยที่จะทำการรบด้วยมนต์ แม้เหล่านั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อนึ่ง
ในราชสกุลนี้ เงินทองทั้งที่อยู่ในพื้นดิน ทั้งที่อยู่ในเวหาส ซึ่งพวกข้าพระองค์
สามารถจะใช้เป็นเครื่องมือยุแหย่ให้ข้าศึกที่ยกมาแตกกันก็มีอยู่เป็นอันมาก ข้า
แต่พระองค์ผู้เจริญ แต่เมื่อชรามรณะครอบงำ ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะทำการรบด้วย
ทรัพย์แม้เหล่านั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็แลเมื่อมรณะครอบงำอยู่ อะไรเล่า
จะพึงเป็นกิจที่หม่อมฉันควรทำ นอกจากประพฤติธรรม นอกจากประพฤติ
สม่ำเสมอ นอกจากทำกุศล นอกจากการทำบุญ.
[414] ป. ถูกแล้ว ๆ มหาบพิตร ก็เมื่อชรามรณะครอบงำอยู่
อะไรเล่าจะพึงเป็นกิจที่พระองค์ควรทำนอกจากประพฤติธรรม นอกจาก
ประพฤติสม่ำเสมอ นอกจากทำกุศล นอกจากการทำบุญ.
[415] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์คำ
ร้อยแก้วนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า
ภูเขาใหญ่ล้วนแล้วด้วยศีลา จดท้อง
ฟ้า กลิ้งบดสัตว์มาโดยรอบทั้ง 4 ทิศ แม้
ฉันใด ชราและมัจจุก็ฉันนั้น ย่อมครอบ

งำสัตว์ทั้งหลาย คือ พวกกษัตริย์ พวก
พราหมณ์ พวกแพศย์ พวกศูทร พวก
จัณฑาล และคนเทมูลฝอย ไม่เว้นใครๆ
ไว้เลย ย่อมย่ำยีเสียสิ้น ณ ที่นั้น ไม่มียุทธ
ภูมิสำหรับพลช้าง ไม่มียุทธภูมิสำหรับ
พลรถ ไม่มียุทธภูมิสำหรับพลราบ และ
ไม่อาจจะเอาชนะแม้ด้วยการรบด้วยมนต์
หรือด้วยทรัพย์ เพราะฉะนั้นแล บุรุษผู้
เป็นบัณฑิตมีปัญญา เมื่อเห็นประโยชน์ตน
พึงตั้งศรัทธาไว้ในพระพุทธเจ้า ในพระ-
ธรรมและในพระสงฆ์ ผู้ใดมีปกติประพฤติ
ธรรมด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ
บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญผู้นั้น ใน
โลกนี้นั่นเทียว ผู้นั้นละโลกนี้ไป ย่อม
บันเทิงในสวรรค์.

จบปัพพโตปมสูตร
จบ โกสลสังยุต

อรรถกถาปัพพโตปมสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปัพพโตปมสูตรที่ 5 ต่อไป :-
บทว่า มุทฺธาวสิตานํ ได้แก่ ผู้อันเขารดน้ำแล้วบนพระเศียรด้วย
อภิเษกเป็นกษัตริย์ ชื่อว่าผู้อันเขาทำการอภิเษกแล้ว. บทว่า กามเคธปริยุฏฺฐี-
ตานํ
แปลว่า ผู้อันความกำหนัดในกามทั้งหลายกลุ้มรุม คือครอบงำแล้ว.
บทว่า ชนปทถาวริยปฺปตฺตานํ แปลว่า ผู้ถึงความมั่นคงในชนบท. บท
ว่า ราชกรณียานิ แปลว่า การงานของพระราชา คือกิจที่พระราชาพึงทรง
กระทำ. บทว่า เตสฺวาหํ ตัดเป็น เตสุ อหํ. บทว่า อุสฺสุกํ อาปนฺโน
แปลว่า ถึงความขวนขวาย ได้ยินว่า พระราชานั้น เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
วันละ 3 ครั้ง เสด็จไประหว่างนั้น ก็หลายครั้ง เมื่อท้าวเธอเสด็จไปเป็น
ประจำ หมู่ทหารก็มากบ้าง น้อยบ้าง ต่อมาวันหนึ่ง โจร 500 คิดกันว่า
พระราชาพระองค์นี้ เสด็จไปเฝ้าพระสมณโคดม โดยหมู่พลจำนวนน้อย ใน
เวลาไม่สมควร จำเราจักดักระหว่างทางยึดสมบัติ. โจรเหล่านั้นก็พากันไปซุ่ม
ซ่อนอยู่ในป่าอันธวัน. ก็ธรรมดาพระราชาทั้งหลายย่อมเป็นผู้มีบุญญาธิการมาก.
ครั้งนั้น บุรุษผู้หนึ่งออกไปจากกลุ่มโจรเหล่านั้นนั่นแหละ กราบทูลแด่พระราชา.
พระราชาก็พาหมู่ทหารจำนวนมาก ไปล้อมป่าอันธวัน จับโจรเหล่านั้นได้หมด
โปรดให้ปักหลาวไว้ใกล้สองข้างทางตั้งแต่อันธวันจนถึงประตูพระนคร ให้เหล่า
โจรหวาดเสียวที่หลาวทั้งหลาย โดยประการที่เหล่าโจรได้แต่เอาตาจดจ้องมอง
ตากันและกัน พระราชาทรงหมายถึงเรื่องนี้ จึงตรัสอย่างนั้น.
ครั้งนั้นพระศาสดาทรงพระดำริว่า ถ้าเราจะกล่าวว่า ถวายพระพร
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่นเราอยู่ ณ วิหารใกล้ ๆ กรรมอันทารุณที่มหา-